จอร์เจีย ประเทศที่สวยกว่ายุโรป แต่เที่ยวถูกกว่าไทย!!

 ประเทศที่เราจะพาไปทำความรู้จักในวันนี้ รับรองว่าเข้าตา ขาเที่ยวอย่างทุกคนแน่นอน หากคุณเริ่มเบื่อสถานที่ท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังมองหาที่เที่ยวสวยๆ อากาศดี และราคาไม่แพง! บอกเลยว่า ที่นี่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการของคุณอย่างแน่นอน

เมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยข้อมูลว่า ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในนามว่า “สวนด้านหลังของมรดกของพระเจ้า” แถมยังถูกหยิบเอามาขึ้นหน้าปกของนิตยสารท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง “Lonely Planet Magazine” อีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถการันตีได้ว่า สถานที่ ที่เราจะพาคุณไปรู้จัก ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

สัมผัสบรรยากาศ ชมปราสาท บ้านเรือนสไตล์ยุโรป
ดื่มด่ำวิวภูเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวละมุน 

เหมือนกำลังยืนอยู่บนยอดเขาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ แต่!! ไม่ต้องบินไปไกลถึงยุโรป ที่ถ้าเทียบกับประเทศยอดนิยมอย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลี ทำให้ที่นี่เป็นที่เที่ยวอันเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจที่สุด ไม่ต้องกังวลเรื่องของความปลอดภัยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะว่าที่นี่ ติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก และที่สำคัญ เราสามารถ ท่องเที่ยวที่นี่ได้อย่างหรูหรา ในราคาที่ถูกแทบจนเป็นลม !! คุณสามารถนั่งจิบไวน์ระดับพรีเมี่ยม ได้ในราคาแค่ 75 บาท ทานอาหารรสเลิศมื้อใหญ่ เพียง 150 บาทเท่านั้นเอง!! เมื่อพูดขนาดนี้แล้ว เชื่อเลยว่าทุกคนคงอยากจะรู้แล้วใช่ไหม ? ว่าประเทศที่เรากำลังกล่าวถึงอยู่คือที่ไหนกันแน่ ...

เจ้าของฉายา "ประเทศที่สวยกว่ายุโรป แต่เที่ยว กิน ช้อป
ถูกกว่าไทย!!" ก็คือ ประเทศจอร์เจีย นั่นเอง...

เที่ยวจอร์เจียแบบราชา แต่จ่ายถูกมาก นอกจากค่าอาหารที่ถูกแสนถูกแล้ว เรื่องที่พักวิวสวย ทำเลดี คุณสามารถเข้าพักได้ในราคาเพียง 200-800 บาทเท่านั้น และถึงราคาจะถูกขนาดไหน คุณภาพไม่ลดลงอย่างแน่นอน!! 

จอร์เจีย...ประเทศแห่งนางแบบ 

เมื่อสังเกตผู้คนที่เดินไปมาตามท้องถนน คุณจะได้พบกับสาวสวย นัยน์ตาสีฟ้าเป็นประกาย ใบหน้างดงาม หมดจด ราวกับเดินอยู่บนสวรรค์ท่ามกลางเหล่านางฟ้าเลยทีเดียว ซึ่ง Tako Natsvlishvili ก็เป็นนางแบบจอร์เจียที่โด่งดัง และเซ็กซี่ สะกดทุกสายตา

ทำไมต้องไปไกลถึงยุโรป ในเมื่อจอร์เจียก็มี....

ถ้าให้เล่าถึงความสวยงามของธรรมชาติ ที่จะทำให้คุณประทับใจจนลืมไม่ลงนั้น แน่นอนว่าสถานที่ ที่น่าประทับใจที่สุด ก็คือยอดภูเขาน้ำแข็งที่สูงเทียมฟ้ากว่า 5000 เมตร โดยน้ำแข็งที่เกาะอยู่บนยอดเขา ไม่ละลายตลอดทั้งปี! นอกจากนี้ยังจะได้พบกับแนวชายฝั่งทะเลยาวกว่า 300 กิโลเมตร โดยไปต้องล่องเรือลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเลย! 

จะมีเมืองไหน สวยเหมือน Tbilisi ...

อีกฝั่งหนึ่งของธรรมชาติ มีเมืองหลวงเก่าแก่ที่เคยถูกทำลาย และเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ จากสงครามโซเวียต อบอวนอยู่ทั่วทั้งเมือง เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ที่นี่ เสมือนได้นั่งเครื่อง ไทม์ แมชชิน กลับไปสู่ยุคสหภาพโซเวียตเลยทีเดียว บ้านเรือนที่คงความดั้งเดิมอายุกว่า 1500 ปี แต่ยังคงความงามเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยผู้คนในเมือง ที่ต่างช่วยกันแต่งแต้มสีสัน ให้ทบิลิซี มีชีวิตชีวา ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

คุณจะได้พบกับร้านขายดอกไม้หลากหลายร้าน สลับสีสันกันอย่างน่ามอง ร้านขายภาพวาดที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่ใช่น้อย เพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี ที่พร้อมขับกล่อมนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา แค่เดินออกมาจากโรงแรมก็ได้ยินเสียงเพลงแว่วมาแล้ว แต่ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะคงความดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างดี แต่ที่นี่ก็ไม่ได้ล้าหลังแต่อย่างใด เพราะมีการแฝงไปด้วยกลิ่นไอความทันสมัย ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ในกรุงปารีส สิ่งความเป็นสมัยเก่าและสมัยใหม่ ถูกหลอมรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และนี่คือสิ่งที่ทำให้ ทบิลิซี เป็นเมืองหลวงที่สวยแบบหาเมืองใดมาเหมือนได้...

Batumi แดนสวรรค์ที่น้อยคนจะได้รู้จัก...

จะดีแค่ไหน ? ถ้าในวันหยุดพักผ่อนของคุณถูกแต่งแต้มไปด้วยความหรูหรา โรแมนติก แต่คุณควักกระเป๋าจ่ายไปเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้น! กับการเที่ยวเมือง Batumi (บาทูมี) เมืองริมทะเลที่สวย เทียบเท่าทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ให้คุณได้พักผ่อนเอนกาย ไปกับชายหาดที่ทอกยาวไปจนสุดสายตา กว่า 300 กิโลเมตร และเมื่อมาถึง Batumi ต้องไม่พลาดแมคโดนัลด์ที่เท่ที่สุดในโลกเด็ดขาด!

Sighnaghi เมืองเล็ก แต่ความสวยไม่เล็ก

เล็กพริกขี้หนู คงเป็นสำนวน ที่ดูจะเหมาะกับเมืองนี้ที่สุดแล้ว เพราะว่า Sighnaghi (ซิกนากี) เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่สามรถดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวยุโรป ให้เดินทางมาเยือนได้เป็นย่างดี  

สวยกว่าสวิตเซอร์แลนด์ ก็ Mount Kazbek (ยอดเขาคาสเบก)
นี่แหละ...

ภูเขาสูงระฟ้า ที่ยอดถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ภาพที่ได้พบเห็นตรงหน้าเหมือนกำลังหลุดเข้าไปในเทพนิยาย แสงแดดที่ทอลอดผ่านปุยเมฆ สาดส่องลงมาสู่ผืนหญ้าสีเขียวขจี เป็นภาพที่สวยน่าอัศจรรย์มาก 

Gergeti Trinity Church

จุดต่อไปที่น่าสนใจไม่แพ้ที่อื่น คืออนุสาวรีย์มิตรภาพรัสเซีย-จอร์เจีย สถานที่ที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น ตั้งเด่นอยู่บนขุนเขา ที่ถูกแต่งแต้มด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทำให้อนุสาวรีย์แห่งนี้ ดูสดใสน่ามอง 

ชวนชิมเมนูยั่วน้ำลายแห่งจอร์เจีย...

churchkhela หรือ น้ำตาลแท่ง

ที่เห็นห้อยเรียงรายกันอยู่นี้ ไม่ใช่ไส้กรอกแต่อย่างใด แต่เป็นขนมขึ้นชื่อของคนท้องถิ่น ที่ทำมาจากวัตถุดิบธรรมชาติ นั่นก็คือถั่วและแยมนั่นเอง รสชาติอร่อย แถมทานแล้วไม่อ้วนง่ายด้วย

ไก่ย่างตุ๋นนม

รังสรรค์ขึ้นมาจากวัตถุดิบที่หลายคนคิดว่าคงไม่น่าจะเข้ากัน แต่พอปรุงรสออกมาแล้ว กลับเข้ากันได้ดีอย่างลงตัว เป็นอาหารรสเลิศที่ควรลองทาน

เนื้อแกะบาร์บีคิว

สัมผัสความนุ่มละมุนลิ้น ซึมซับรสชาติกลมกล่อม ที่เป็นเอกลักษณ์ของเนื้อแกะ ที่ถูกย่างไฟปรุงรสด้วยเครื่องเทศชั้นดี ที่ทานแล้วต้องหยุดไม่อยู่แน่นอน

เมื่อได้ทำความรู้จักกับจอร์เจียแล้ว เชื่อเหลือเกินว่า สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จะช่วยจุดประกายไฟแห่งนักเดินทางในตัวหลายๆท่าน ให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้ จอร์เจีย เป็นประเทศที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ ฉะนั้น เวลานี้แหละ เหมาะที่สุดที่จะได้ไปเที่ยว ซึมซับความงดงามของจอร์เจียได้อย่างคุ้มค่าและน่าประทับใจ