แจกฟรี!! คู่มือเที่ยวจอร์เจียแบบละเอียด ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นเรื่องง่าย
ก่อนเดินทางไป เที่ยวจอร์เจีย เรามาเจาะลึกข้อมูลแบบแน่นๆ เน้นๆ กันดีกว่าค่ะ กับคู่มือเที่ยวจอร์เจียฉบับละเอียด ที่จะทำให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นไปกว่าเดิม
การเดินทางไปจอร์เจีย ใช้เวลาเท่าไหร่ สายการบินอะไรบ้าง?
การเดินทางไปยังประเทศจอร์เจียใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 11-12 ชั่วโมง
โดยสายการบินที่ให้บริการในเส้นทาง จอร์เจียได้แก่
✔ยูเครน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ - Ukraine International Airlines
✔เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ - Emirates Airlines
✔กัลฟ์แอร์ - Gulf Air
✔กาตาร์แอร์เวย์ - Qatar Airways
✔เตอร์กิส แอร์ไลน์ - Turkish Airlines
✔แอร์ อัสตานา - Air astana
✔แอร์เอเชีย เอ็กซ์ - Air Asia X
เที่ยวจอร์เจีย ต้องใช้ Visa หรือไม่ ?
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ถือหนังสือเดินทาง (Passport)ของไทย สามารถเดินทางเข้าประเทศจอร์เจียได้โดยไม่ต้องขอ Visa (วีซ่า) และสามารถพำนักได้ถึง 365 วัน
ประเทศจอร์เจียใช้เงินสกุลอะไร
สกุลเงินของประเทศจอร์เจียนั้น เรียกว่า จอร์เจียน ลารี (Georgian Lari) หรือลารีเฉยๆก็ได้ค่ะ ซึ่งในปัจจุบันนี้เรายังไม่สามารถแลกเงินลารีไปจากประเทศไทยได้ เราจึงต้องนำเงิน US Dollars หรือเงิน Euro ไปแลกเป็นเงินลารีที่ประเทศจอร์เจียอีกครั้งหนึ่ง โดยสถานที่แลกเงินในจอร์เจีย สามารถแลกได้ที่สนามบิน หรือหากเดินทางไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ ก็สามารถแลกกับไกด์/หัวหน้าทัวร์ได้เลยค่ะ
สภาพอากาศของประเทศจอร์เจีย
ฤดูกาลของประเทศจอร์เจียถูกแบ่งออกเป็น 4 ฤดูด้วยกันครับ ได้แก่
1.ฤดูร้อน : ระหว่างเดือน มิถุนายน - สิงหาคม
ในช่วงนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 องศาเซลเซียส เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางไปพักร้อนที่ เมือง บาตูมี เมืองชายฝั่งทะเลของจอร์เจีย ที่มีความงามเทียบเท่ากับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้อย่างไร้ที่ติ
2.ฤดูใบไม้ร่วง : ระหว่างเดือน กันยายน - พฤศจิกายน
ในช่วงนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-24 องศาเซลเซียส นับว่าเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะสำหรับคนไทยมาก และอย่างที่ทราบกันว่าจอร์เจียมีเทือกเขาอยู่เยอะทำให้เราได้ชมความสวยงามของใบไม้ใบหญ้า ที่กำลังเปลี่ยนสีสันเป็นสี เหลือง ส้ม แดง ก่อนจะร่วงลงจากต้น ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการเดินทางไปเที่ยวจอร์เจียเลยทีเดียว
3.ฤดูหนาว : ระหว่างเดือน ธันวาคม - มีนาคม
ในช่วงนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 2-4 องศาเซลเซียส ในเมืองหลวง และบนภูเขาอาจจะหยาวถึงขั้นติดลบ(สูงสุดถึง -20 องศาเซลเซียส) และช่วงเวลานี้แหละ ที่เราจะได้เห็นหิมะปกคลุมเทือกเขาคอเคซัส เป็นบรรยากาศที่ให้ความสวยเทียบเท่ากับสวิตเซอร์แลนด์ แต่ไม่ต้องไปถึงยุโรป ไม่ต้องขอวีซ่าก็เที่ยวได้แบบ Max Stay 1 ปี กันทีเดียว
4.ฤดูใบไม้ผลิ: ระหว่างเดือน เมษายน - พฤษภาคม
หากใครที่นึกภาพบรรยากาศของช่วงฤดูใบไม้ผลิในจอร์เจียไม่ออก ให้ลองนึกถึงเมืองอินเทอร์ลาเก้น ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี ล้อมรอบไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ และมีลำธารไหลผ่าน ให้ความรู้สึกสงบสุข และมีความสวยงามราวกับสวรรค์ จนได้รับฉายาว่า "เป็นสวนหลังบ้านของพระเจ้า" เลยทีเดียว
เที่ยวจอร์เจียช่วงๆไหนดี?
หากพูดถึงช่วงเวลาที่สวยที่สุดของการเดินทางไปเที่ยวจอร์เจีย ทัวร์เอ็กซ์เพรสเซ็นเตอร์ ขอแนะนำช่วงฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือน กันยายน - พฤศจิกายน ในช่วงนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10-24 องศาเซลเซียส นับว่าเป็นช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย เหมาะสำหรับคนไทยมาก นอกจากจะได้ชมสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังได้ชมใบไม้ที่กำลังเปลี่ยนสี เป็นเหลือ ส้ม แดง ไปตามกาลเวลาอีกด้วย
อีกหนึ่งช่วงที่ควรเดินทางไปเยือนจอร์เจียที่สุดก็คือ ฤดูหนาว ระหว่างเดือน ธันวาคม - มีนาคมของทุกปีนั่นเอง คุณจะได้พบกับความสวยงามอันน่าทึ่ง ราวกับได้เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เลยทีเดียว เนื่องจากเทือกเขาต่างๆ จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน ให้อารมณ์เหมือนกำลังเที่ยวยุโรปยังไงอย่างงั้นเลยล่ะค่ะ
แต่จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของปี จอร์เจียก็สามารถท่องเที่ยวได้ แต่ละสถานที่ท่องเที่ยวจะให้ความรู้สึกและบรรยากาศที่ต่างกันออกไปในแต่ละช่วงฤดูกาล คอนเฟิร์มเลยว่า จอร์เจียเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ
ไปจอร์เจียซื้อของฝากอะไรดี ?
สำหรับของฝากขึ้นชื่อของจอร์เจียนั้นแน่นอนว่าต้องไม่พ้นผลไม้ และไวน์รสเลิศเนื่องจากจอร์เจียมีชื่อเสียงเรื่องการบ่มไวน์ดินเผาที่รสชาติดีจนชาวฝรั่งเศสที่มีความพิถีพิถันนั้นยังต้องเอ่ยปากชมว่ารสชาติไร้ที่ติ แถมราคาก็ถูกแสนถูก เพียงขวดละ 300 - 400 บาทไทยเท่านั้น