ต้องอ่าน! ตีแผ่ ตม.เกาหลี
อารมณ์คนตรวจหรือรอยด่างที่เคยสร้างไว้
ตีแผ่ ตม.เกาหลี อารมณ์คนตรวจหรือรอยด่างที่เคยสร้างไว้ วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกระแสโอปป้าเกาหลีหนุ่มหล่อนักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากแฟนคลับชาวไทย ด้วยความดังและกระแสการตอบรับที่ดีทำให้คนไทยรู้จักประเทศเกาหลีใต้กันมากขึ้นและอยากจะไปเที่ยวเกาหลีตามรอยซีรี่สักครั้งในชีวิต
ทำให้ปัจจุบันนี้คนไทยเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้กันมากขึ้น แต่ทว่าความฝันตามรอยติ่งเกาหลีก็ต้องพังทลายไปในพริบตา เนื่องจากว่ามีนักท่องเที่ยวไทยถูกกักตัวไม่ผ่าน ตม.เกาหลีใต้จำนวนหลายพันคน ซึ่งตัวเลขในแต่ล่ะปี ตม.เกาหลีใต้ ปฏิเสธการเข้าเมืองของคนไทยและส่งกลับประเทศไทยถึงปีล่ะกว่า 8,000 - 9,000 คน เลยทีเดียว
ทั้งนี้ สาเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไทยต้องน้ำตาตกอดเจอโอปป้าตัวเป็นๆ มาจากการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย การก่ออาชญากรรม การค้ามนุษย์ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมส่วนน้อยของคนไทยที่สร้างวีรกรรมไว้ในต่างแดน ทำให้ผลกรรมต้องตกมาถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่อาจจะมีบางกรณีที่ เหตุผลของการเข้าเกาหลีใต้ไม่ได้ การทำงานของเจ้าหน้าที่ดูจะสับสนเป็นอย่างมาก อย่างเช่น ตัวอย่างที่นักท่องเที่ยวสาวคนหนึ่งเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์ แล้วต่อแถวสแกนลายนิ้วมือ มองกล้อง เสร็จปุ๊บก็โดนไล่เข้าห้องกักตัวแล้วก็ไม่ผ่าน ตม.ซะอย่างนั้น แต่แล้วเมื่อเคลียร์กับทาง ตม.เกาหลีใต้เรียบร้อยแล้ว แค่ให้ไกด์เซ็นรับรองเป็นลูกทัวร์ก็จบเรื่อง แต่เรื่องดันกลับตาลปัตร เมื่อไกด์ทัวร์ดันทิ้งลูกทัวร์และไม่สนใจเอาดื้อๆ ทำให้นักท่องเที่ยวสาวคนนี้ต้องถูกส่งกลับแบบช้ำใจ
นอกจากนี้ยังมีเคสที่ไม่ผ่าน ตม.เกาหลีใต้แบบอึ้งๆ ทั้งที่มีเอกสารพร้อมเสร็จสรรพ เช่นนักท่องเที่ยวสาวไทยคนหนึ่งได้วางแผนเตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลีใต้คนเดียว แลจองตั๋วชั้น Business Class ไป-กลับ โดยแวะเที่ยวฮ่องกง 1 วัน จากนั้นก็ไปเที่ยวเกาหลีใต้ต่อ เมื่อถึงสนามบินก็มี ตม.ผู้หญิงเข้ามาตรวจค้นกระเป๋า จากนั้นนักท่องเที่ยวชาวไทยก็ได้ยื่นเอกสารให้ดูดังนี้
เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่นให้ ตม.ดู
สิ่งที่ต้องเตรียมมา
1. หลักฐานการทำงาน กรณีเป็นข้าราชการ หรือ พนักงานเอกชน สามารถแสดงบัตรประจำตัวพนักงานได้
2. หลักฐานใบจองโรงแรม/เอกสารการนำเที่ยว/ตั๋วเครื่องบินขากลับ ของพวกนี้ ทางบริษัททัวร์เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ก็แค่แสดงให้เค้าดู
3.การแต่งกาย ควรแต่งกายให้ดูเป็นนักท่องเที่ยว ดูสุภาพ ไม่นุ่งสั้นจนเกินงามส่วนคุณผู้ชาย ก็แต่งตัวตามปกติ พยายามแต่งให้ดูเป็นนักท่องเที่ยวมากที่สุด เช่น เอากล้องห้อยคอ ใส่เสื้อกันหนาวตามปกติ สวมรองเท้าผ้าใบ
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
1. สบตาเจ้าหน้าที่เวลาตอบคำถาม ไม่ต้องหลบสายตา ไม่ทำตาหรอกแหรก
2. เมื่อถูกถามเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลี ถ้าไม่เข้าใจก็ขอ again please เค้าได้ แต่ส่วนใหญ่คำถามก็จะเป็นคำถามพื้นๆ อาทิเช่น มากี่วัน? มากับใคร? จะไปที่ไหนบ้าง? กลับเมื่อไหร่? ทำอาชีพอะไร? ซึ่งถ้าเค้าขอดูเอกสาร เราก็ค่อยเปิดเอกสารที่เราเตรียมมาให้เค้าดู ก็เท่านั้นเอง
3. หลักสำคัญก็คือ ถามมาก็ตอบไป ตอบแบบฉะฉาน ไม่ต้องกลัวเรื่องไวยากรณ์และไม่ต้องอาย ถ้าเกิดอาการอึกอักๆ หรือโลเล ลังเลใจ ไม่กล้าคุย อาจโดนส่งกลับ
4. เมื่อเจ้าหน้าที่ให้สแกนลายนิ้วมือ มีหน้าจอภาษาไทยไม่ต้องห่วง ก็ยื่นนิ้วชี้ ทั้ง 2 ข้างไปจิ้มตรงเครื่องสแกนด้านหน้าเคาเตอร์ตม. ถ่ายรูปแชะนึง แต่อย่ายิ้มเห็นฟันเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี
คำถามส่วนมากที่ ตม.เกาหลีใต้จะถามนักท่องเที่ยว
1.คุณมาเกาหลีทำไม
2.คุณมากับใคร ถ้ามาคนเดียวจะถูกถามว่าทำไมมาคนเดียว
3.คนที่คุณมาด้วยรู้จักกันนานเท่าไหร่แล้ว
4.คุณจะไปเที่ยวที่ไหน(กรุณาอ่านโปรแกรมให้ละเอียด)
5.คุณจะไปพักโรงแรมอะไร(กรุณาถามไกด์ให้ละเอียด สำคัญมาก)
6.คุณแลกเงินมาเท่าไหร่
7.คุณทำงานอะไร
8.คุณมีคนรู้จักคนที่เกาหลีหรือเปล่า
*ให้ตอบคำถามตามความเป็นจริง มั่นใจ ไม่หลบสายตา
ทั้งนี้วิธีการข้างต้นเป็นข้อมูลที่น่าสนใจเหมาะกับการนำไปใช้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการไปเที่ยวเกาหลีใต้จริงๆ ซึ่งหากนักท่องเที่ยวชาวไทยปฏิบัติตามกฎและทำตามวิธีการที่แนะนำไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ก็ไม่สามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีได้นั้น คงไม่มีสาเหตุอะไรที่น่าพอจะฟังขึ้นในการพิจารณาการตัดสินใจการผ่านด่านของเจ้าหน้าที่แต่ล่ะท่านแล้วล่ะ นอกจากอารมณ์ล้วนๆ
หากเป็นเช่นนี้อีกต่อไปปัญหานี้อาจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เป็นได้ และที่สำคัญการพิจารณาการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองน่าจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อความถูกต้องและหายเคลือบแคลงใจจากนักท่องเที่ยว เพราะถ้าไม่มีเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ สิ่งที่ทิ้งไว้คงมีเพียงแค่อารมณ์ความผิดหวังล้วนๆของคนไทยที่อยากไปเที่ยวเกาหลีใต้